กิจกรรมหน่วยแพทย์อาสามูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล ส่วนกลาง (กรมการแพทย์) ครั้งที่ 1

          ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการหน่วยแพทย์เฉพาะทางอาสา กรมการแพทย์ ดูแลรักษาประชาชนในพื้นที่ห่างไกล จ.หนองบัวลำภู ให้เข้าถึงการรักษาเฉพาะทาง 7 สาขา ได้แก่ ผิวหนัง ทันตกรรม พัฒนาการเด็ก การดูแลผู้ป่วยกึ่งเฉียบพลันและการฟื้นฟูสมรรถภาพ โรคมะเร็ง โรคทางเดินปัสสาวะ และการดูแลผู้สูงอายุ ตอบรับนโยบาย “พาหมอไปหาคนไข้” ให้ได้รับการดูแลใกล้บ้าน พร้อมมีระบบส่งต่อรักษารองรับ
          เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่ โรงพยาบาลนาวังเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการหน่วยแพทย์เฉพาะทางอาสา กรมการแพทย์ ภายใต้ศูนย์ประสานงานหน่วยแพทย์อาสามูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล ส่วนกลาง (กรมการแพทย์) และกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดบริการหน่วยแพทย์อาสามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้รับการดูแลรักษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ซึ่งการออกหน่วยแพทย์เฉพาะทางอาสา กรมการแพทย์ ในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกรมการแพทย์ และมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล ที่สนับสนุนหน่วยแพทย์ทั้งจากส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง (กรมการแพทย์) และโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี จัดบริการด้านการแพทย์เฉพาะทางสาขาต่าง ๆ โดยมี วัตถุประสงค์หลักคือ “การพาหมอไปหาคนไข้” ทำให้ทราบสภาพปัญหาและบริบทของแต่ละพื้นที่ ประชาชนได้รับบริการที่เสมอภาค เท่าเทียม “เกิดการรักษาแบบไร้รอยต่อ” ด้วยการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ให้ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง โดยจัดระบบบริการแบบบูรณาการระหว่างผู้เชี่ยวชาญส่วนกลางร่วมกับพื้นที่
“มีการพัฒนาสู่ความยั่งยืน” คือพัฒนาศักยภาพบุคลากรในการดูแลรักษาโรคเฉพาะทาง และขยายเครือข่ายไปยังโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป สำคัญที่สุดคือ ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน ใกล้บ้าน ไม่ต้องรอคิวนาน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
          ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โครงการหน่วยแพทย์เฉพาะทางอาสาฯ ครั้งนี้ ได้จัดบริการใน 7 สาขา คือ 1.โรคผิวหนัง ให้บริการตรวจวินิจฉัยรักษาโรคผิวหนังที่พบบ่อย และโรคผิวหนังจากการประกอบอาชีพ โดย สถาบันโรคผิวหนัง 2.ทันตกรรม บริการผ่าฟันคุด โดยสถาบันทันตกรรม 3.พัฒนาการเด็ก ให้บริการตรวจวินิจฉัยโรคทางพัฒนาการเด็ก เพื่อออกใบรับรองความพิการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว โดย สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี 4.การดูแลผู้ป่วยกึ่งเฉียบพลันและการฟื้นฟูสมรรถภาพ ตรวจยืนยันความพิการทางกายเพื่อออกใบรับรองความพิการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว โดย สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ 5.โรคมะเร็ง ให้บริการอัลตราซาวน์บริเวณตับเพื่อคัดกรองมะเร็งตับและท่อน้ำดี โดย โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี 6.โรคทางเดินปัสสาวะ ให้บริการสลายนิ่วและการตรวจติดตาม และตรวจวินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโต โดย โรงพยาบาลสงฆ์ โรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ 7.การดูแลผู้สูงอายุ ให้บริการดูแลเฉพาะราย (Individual Care Plan) โดย สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ มีแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข ทั้งจากส่วนกลางและพื้นที่ อาสาปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 250 คน หากพบผู้ป่วยที่ต้องส่งต่อจะมีโรงพยาบาลประจำจังหวัดและโรงพยาบาลเฉพาะทางในเขต เช่น โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี โรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ รับดูแลตามระบบ และหากเกินขีดความสามารถ จะส่งต่อสถาบันการแพทย์ของกรมการแพทย์
           ทั้งนี้ หน่วยแพทย์เฉพาะทางอาสาฯ ได้เลือกโรงพยาบาลนาวังเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ในการออกหน่วยฯ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 45 นาที เบื้องต้นได้คัดกรองกลุ่มผู้ป่วยที่มี
ความเสี่ยงเข้ารับการรักษาในวันนี้จำนวน 500 ราย ให้บริการตั้งแต่เวลา 09.30 – 16.00 น. ส่วนบริการสลายนิ่วและการตรวจติดตาม จะมีรถสลายนิ่วเคลื่อนที่ออกให้บริการเดือนละ 1 ครั้ง โดยมีโรงพยาบาลชุมชนทำการค้นหาผู้ป่วยและนัดหมายเข้ารับการรักษา